การศึกษาปัจจัยและพฤติกรรมการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม กรณีศึกษาในอาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ ในจังหวัดกรุงเทพฯ
สามารถ เอนกธนกุล |
บทคัดย่อ
การศึกษาปัจจัยและพฤติกรรมการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม อาจเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงจากการขาดทุนจากการลงทุน ซึ่งการศึกษาฉบับนี้อาศัยข้อมูลเชิงสถิติ ค่าร้อยละ และแบบจาลอง Likert scale ผลการศึกษาตัวอย่างจากแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ ในจังหวัดกรุงเทพฯ จานวน 605 คนพบว่า มีกลุ่มตัวอย่างที่ลงทุนในหุ้น 255 คน (42.15%) และลงทุนในกองทุนรวม 333 คน (55.04%) ประชากรส่วนใหญ่ยังออมเงินในธนาคารมากกว่าลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม เนื่องจากยังขาดความรู้เกี่ยวกับพื้นฐานการลงทุน หากมีการส่งเสริมการให้ความรู้ความเข้าใจจากภาครัฐและสถาบันการเงิน อาจช่วยกระตุ้นให้ประชากรเหล่านี้หันมาลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมได้มากขึ้น นอกจากนี้มีการศึกษาพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติและควรหลีกเลี่ยงในการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม จากกลุ่มตัวอย่างที่ได้กาไรและขาดทุน การศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยพบว่า ความรู้ความเข้าในเกี่ยวกับการลงทุนเป็นปัจจัยหลักที่สาคัญ ส่วนรายได้ อายุ และเพศ ไม่ใช่ปัจจัยสาคัญต่อการเลือกลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมของแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์