ความยั่งยืนของระบบสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ “กรณีศึกษาสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์สมาชิกของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (สส.ชสอ.)”ศรัณย์รักษ์ เรืองสว่าง |
บทคัดย่อ
การศึกษาในที่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคุ้มค่าในการทำฌาปนกิจสงเคราะห์เทียบกับการทำประกันชีวิต โดยผู้วิจัยได้แบ่งเพศชายและเพศหญิงแต่ละช่วงอายุในการเข้าเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์โดยแบ่งเป็น 4 ช่วง คือ 30 ปี 40 ปี 50 ปี และ 60 ปี โดยผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือทางการเงินมาคำนวณความคุ้มค่าในครั้งนี้ จากการศึกษาพบว่าไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย และช่วงอายุใดๆ ก็ตามการทำฌาปนกิจสงเคราะห์ให้ผลประโยชน์มากกว่าการทำประกันชีวิต โดยเพศชาย อายุ 60 ปี จะได้รับความคุ้มค่าสูงสุด และการศึกษาความยั่งยืนของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ (สส.ชสอ.) โดยการวิเคราะห์กระแสเงินสดข้อมูลสถานภาพการดำเนินงานของสมาคมในภาพ 6 ปี คือ ปี พ.ศ.2554 – 2559 สำหรับการสร้างกระแสเงินสดที่จะขึ้นในอีก 10 ข้างหน้า พบว่าทั้ง 6 สถานการณ์สมาชิกฯ มีแนวโน้มอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้สมาคมต้องจ่ายเงินสงเคราะห์ศพเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ส่งผลทำให้สมาคมมีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ หรือมีผลขาดทุน ในทุกๆ สถานการณ์ รวมทั้งมีข้อจำกัดของ พ.ร.บ. ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ระเบียบข้อบังคับ ในการสร้างรายได้ให้กับทางสมาคม ซึ่งทางสมาคมไม่สามารถนำไปลงทุนทำอะไรเพื่อก่อประโยชน์ให้กับทางสมาชิกได้ทำได้เพียงฝากเงินไว้กับสถาบันทางการเงินได้เพียงอย่างเดียว
คำสำคัญ : ฌาปนกิจสงเคราะห์ , สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์